ไขข้อสงสัย Resume แตกต่างจาก CV อย่างไร

การสร้าง Resume และ CV เป็นกระบวนการที่สำคัญในการค้นหางาน แม้ว่าความแตกต่างระหว่างทั้งสองนี้อาจจะดูไม่มีผลต่อสายงานบางประการ แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างที่สำคัญที่สามารถช่วยให้ผู้สมัครทำให้ตนเองโดดเด่นในสายงานที่ต้องการ.

Resume ต่างจาก CV อย่างไร ?

1. ขนาดและรูปแบบ

การเลือกใช้เอกสาร Resume หรือ CV ควรคำนึงถึงขนาดและรูปแบบที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของงานที่สมัคร

Resume:

• เป็นเอกสารที่มีความกระชับ
  
• มักมีความยาวไม่เกิน 1-2 หน้า
  
• ใช้สำหรับการสมัครงานทั่วไปในสายงานเอกชนหรือบริษัทที่ต้องการเห็นคุณสมบัติหลักภายในเวลาสั้นๆ
  

CV (Curriculum Vitae):

• เป็นเอกสารที่ให้รายละเอียดมากกว่า
  
• อาจมีความยาวตั้งแต่ 2 หน้าขึ้นไป
  
• เหมาะสำหรับตำแหน่งทางวิชาการ งานวิจัย หรือการสมัครทุนการศึกษา
  

2. วัตถุประสงค์

Resume และ CV ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ต่างกัน จึงควรเลือกใช้อย่างเหมาะสม

Resume:

• เน้นนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครเท่านั้น
  
• เป็นการ “สรุป” จุดแข็งและคุณสมบัติเด่น เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ว่าจ้างอย่างรวดเร็ว
  

CV:

• นำเสนอข้อมูลที่ “ครอบคลุมทั้งหมด”
  
• เหมาะกับการแสดงประวัติการศึกษา วิชาการ และประสบการณ์ในวงกว้าง
  

3. โครงสร้าง

รูปแบบการจัดโครงสร้างของทั้ง Resume และ CV มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

Resume:

• ใช้หัวข้อที่ชัดเจน เช่น
  
• ประสบการณ์ทำงาน
• การศึกษา
  
• ทักษะเฉพาะทาง
  
• โครงสร้างยืดหยุ่นและสามารถจัดเรียงใหม่ได้ตามตำแหน่งที่สมัคร
  

CV:

• มีรายละเอียดมากกว่า และรวมหัวข้อเพิ่มเติม เช่น
  
• งานวิจัย
  
• การตีพิมพ์บทความ
  
• รางวัลทางวิชาการ
  
• การฝึกอบรมและกิจกรรมเสริม
  

4. ความสำคัญของข้อมูล

การคัดเลือกข้อมูลที่จะแสดงในเอกสารนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ต่างกันระหว่างทั้งสองแบบ

Resume:

• ต้องการเน้นเฉพาะสิ่งที่ “เกี่ยวข้อง” กับตำแหน่งงาน
  
• ไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลทั้งหมดที่เคยทำ
  

CV:

• ควรแสดงข้อมูลทั้งหมดเพื่อแสดงถึงความเชี่ยวชาญในสายงาน
  
• เหมาะสำหรับการสมัครในสาขาวิชาการที่ต้องการความละเอียด
  

5. การใช้ภาษา

ภาษาที่ใช้สะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพและความเหมาะสมกับสายงาน

Resume:

• ใช้ภาษาที่กระชับ ชัดเจน
  
• เน้นคำคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร
  
• เหมาะกับสายงานที่ต้องการความรวดเร็วในการคัดเลือก
  

CV:

• ใช้ภาษาเชิงวิเคราะห์และเป็นทางการมากกว่า
  
• เน้นการอธิบายอย่างละเอียดโดยเฉพาะในส่วนงานวิจัยหรือผลงานเฉพาะทาง
  

6. การประกอบอาชีพ

ความเหมาะสมในการเลือกใช้ขึ้นอยู่กับประเภทของงานที่ต้องการสมัคร

Resume:

เหมาะกับการสมัครงานทั่วไป เช่น

• สายงานธุรกิจ
  
• งานด้านการตลาด
  
• งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
  
• บริษัทเอกชนมักต้องการเอกสารแบบนี้
  

CV:

• เหมาะกับงานในภาคการศึกษา หรือหน่วยงานวิจัย เช่น
  
• นักวิจัย
  
• อาจารย์มหาวิทยาลัย
  
• การสมัครทุนการศึกษาต่างประเทศ

วิธีเลือกใช้ Resume หรือ CV ให้เหมาะกับโอกาสในการสมัครงาน

การเลือกใช้ Resume หรือ CV ให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถส่งผลต่อโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์

หากคุณสมัครงานกับบริษัทเอกชน

• ควรเลือกใช้ Resume เพราะต้องการความกระชับและตรงจุด
  
• เน้นการดึงดูดใน 5-10 วินาทีแรกของการอ่าน
  

หากคุณสมัครทุนการศึกษา, งานวิจัย หรือสถาบันการศึกษา

• ควรเลือกใช้ CV ที่ละเอียดและแสดงความสามารถรอบด้าน
  

• สามารถรวมข้อมูลผลงานวิชาการ งานตีพิมพ์ และกิจกรรมต่างๆ
  

เคล็ดลับเพิ่มเติม

• ควรมีทั้ง Resume และ CV ที่อัปเดตไว้เสมอ
  
• ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละตำแหน่ง ไม่ใช้เอกสารเดียวสมัครทุกงาน

สรุป

การทำ Resume และ CV ไม่ใช่แค่การเขียนเอกสารเพื่อสมัครงาน, แต่เป็นการสร้างแบรนด์ส่วนตัวของคุณ. การเข้าใจความแตกต่างระหว่างทั้งสองนี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนเอกสารของคุณให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานและแตกต่างตามสถานการณ์

อ่านเพิ่มเติมที่ : เขียนเรซูเม่ (Resume) สำคัญอย่างไร