ในการทำงานในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในออฟฟิศหรือการทำงานจากที่บ้าน มักมีปัญหาสุขภาพที่เกิดจากลักษณะการทำงานที่ไม่เหมาะสมหรือต่อเนื่องเป็นเวลานาน หากไม่ระวัง ปัญหาเล็กๆ เหล่านี้อาจกลายเป็นอาการเรื้อรังที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว มาทำความรู้จักกับอาการที่พบบ่อยที่สุดจากการทำงานและวิธีป้องกันกันเถอะ
5 อาการจากการทำงานที่พบบ่อย และวิธีป้องกัน
1. อาการปวดหลัง
อาการปวดหลังเป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มคนทำงาน โดยเฉพาะคนที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน การนั่งท่าที่ไม่ถูกต้อง การเก้าอี้ที่ไม่เหมาะสม และการไม่พักผ่อนบ่อยๆ สามารถทำให้เกิดอาการปวดหลังได้
วิธีป้องกัน: ปรับเก้าอี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม นั่งในท่าที่ถูกต้อง และพยายามยืดเส้นยืดสายทุกๆ 30 นาที
2. อาการตาล้า
การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ทำให้สายตาอ่อนล้า เกิดอาการปวดตา และอาจทำให้ปวดหัวได้
วิธีป้องกัน: ใช้กฎ 20-20-20 คือพักสายตาทุกๆ 20 นาที มองไปไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที และปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม
3. อาการชามือและนิ้ว
การพิมพ์หรือใช้เมาส์ต่อเนื่องนานๆ อาจทำให้เกิดอาการชาหรือปวดที่มือและนิ้ว เป็นผลจากการใช้กล้ามเนื้อและเส้นประสาทซ้ำๆ
วิธีป้องกัน: ปรับท่าการใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ ให้พักมือเป็นระยะ และทำการบริหารกล้ามเนื้อมือเป็นประจำ
4. อาการเครียดสะสม
ความกดดันจากงาน การทำงานในสภาวะที่ต้องเร่งรีบ หรือการทำงานนานๆ โดยไม่พักผ่อน อาจส่งผลให้เกิดอาการเครียดสะสม ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ ได้
วิธีป้องกัน: จัดการเวลาในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ และหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิหรือการออกกำลังกาย
5. อาการปวดคอและบ่า
การนั่งท่าเดิมนานๆ โดยไม่ปรับเปลี่ยนท่าทาง อาจทำให้กล้ามเนื้อคอและบ่าเกิดความตึงเครียด ซึ่งนำไปสู่การปวดเรื้อรังได้
วิธีป้องกัน: ใช้เก้าอี้ที่รองรับคอและหลังได้ดี ปรับหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา และยืดกล้ามเนื้อคอและบ่าทุกๆ ชั่วโมง
การป้องกันอาการเหล่านี้เริ่มได้จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงาน และการดูแลสุขภาพร่างกายอย่างต่อเนื่อง อย่าปล่อยให้การทำงานส่งผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาว