การเขียนเรซูเม่ สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานหลายปีเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากจำเป็นต้องย่อข้อมูลที่สะสมมานานให้เหลือแต่เนื้อหาสำคัญ ในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้เรซูเม่มีความกระชับ น่าอ่าน และสื่อถึงคุณค่าที่ผู้สมัครสามารถนำไปใช้ให้กับองค์กรใหม่ได้ บทความนี้จะเสนอเทคนิคที่คุณสามารถใช้เพื่อเขียนเรซูเม่ให้กระชับ และดึงดูดความสนใจของผู้ว่าจ้าง
เทคนิคเขียนเรซูเม่ให้กระชับและตรงประเด็นสำหรับผู้มีกระสบการณ์ทำงานหลายปี
1. เลือกประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงาน
เนื่องจากคุณมีประสบการณ์ทำงานหลายปี การระบุทุกรายละเอียดอาจทำให้เรซูเม่ยาวเกินไปและดูไม่เป็นระเบียบ ควรเลือกแสดงเฉพาะประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร โดยเน้นไปที่งานที่แสดงถึงทักษะสำคัญที่คุณใช้หรือความสำเร็จที่คุณได้รับ เพื่อให้เรซูเม่ของคุณมีความตรงประเด็นมากที่สุด
ตัวอย่างเช่น หากคุณสมัครตำแหน่งผู้จัดการ ควรเน้นประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ เช่น การจัดการทีม การพัฒนายุทธศาสตร์ หรือการบริหารงบประมาณ ไม่จำเป็นต้องระบุรายละเอียดงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องน้อยกว่า
2. สรุปโปรไฟล์มืออาชีพ (Professional Summary)
แทนการเขียน “Objective” ให้ใช้พื้นที่ช่วงต้นของเรซูเม่เขียนสรุปประวัติการทำงานอย่างสั้น ๆ ในส่วน “Professional Summary” สรุปคุณสมบัติที่สำคัญและประสบการณ์การทำงานที่เชื่อมโยงกับงานที่คุณสมัคร โดยเขียนเป็นย่อหน้า 2-3 บรรทัด ที่สามารถอธิบายภาพรวมของความสามารถที่คุณมี
ตัวอย่าง "ผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์การบริหารโครงการกว่า 10 ปี เชี่ยวชาญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการจัดการทีมขนาดใหญ่ มีทักษะในการบริหารงานภายใต้แรงกดดัน และความสามารถในการพัฒนาแผนกลยุทธ์ที่ตอบสนองความต้องการขององค์กร"
3. ใช้หัวข้อและ Bullet Points
การใช้หัวข้อย่อยหรือ Bullet Points ช่วยให้ข้อมูลมีความเป็นระเบียบและอ่านง่าย ควรหลีกเลี่ยงการเขียนเป็นย่อหน้าที่ยาวเกินไป เนื่องจากจะทำให้ผู้ว่าจ้างไม่สามารถค้นหาข้อมูลสำคัญได้รวดเร็ว นอกจากนี้ การใช้ Bullet Points ยังช่วยให้เน้นจุดสำคัญของประสบการณ์แต่ละงาน เช่น ขอบเขตงาน ผลงานที่ได้รับ หรือการบรรลุเป้าหมาย
ตัวอย่าง
บริหารจัดการโครงการมูลค่า 50 ล้านบาท ให้เสร็จตามกำหนดเวลาและงบประมาณที่กำหนด
เพิ่มประสิทธิภาพของทีมขายขึ้น 25% ภายในระยะเวลา 6 เดือน
พัฒนาระบบการจัดการข้อมูลที่ช่วยลดระยะเวลาการทำงานลง 15%
4. ใช้ตัวเลขและข้อมูลเชิงปริมาณ
หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการสื่อถึงความสำเร็จคือการใช้ตัวเลขและข้อมูลที่เป็นเชิงปริมาณ เนื่องจากจะช่วยให้ผู้ว่าจ้างมองเห็นความสามารถในการสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เช่น การเพิ่มยอดขาย ลดค่าใช้จ่าย หรือการบริหารทีมขนาดใหญ่
ตัวอย่าง "เพิ่มยอดขาย 40% ในระยะเวลา 1 ปี โดยการนำเสนอแผนกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่"
5. ลดทอนรายละเอียดตำแหน่งงานเก่า
หากคุณมีประสบการณ์ทำงานหลายตำแหน่ง ควรให้รายละเอียดงานปัจจุบันและงานที่เกี่ยวข้องมากที่สุดเป็นอันดับแรก ส่วนงานที่เก่ามากควรลดรายละเอียดลงหรือเขียนเป็นสั้น ๆ โดยการระบุเฉพาะชื่อบริษัท ตำแหน่ง และระยะเวลาที่ทำงาน
ตัวอย่าง "บริษัท ABC จำกัด | ผู้จัดการฝ่ายการตลาด | 2550-2553" (ไม่ต้องระบุรายละเอียดงานหากไม่เกี่ยวข้อง)
6. หลีกเลี่ยงการใช้ประโยคยาวและคำไม่จำเป็น
การใช้ประโยคที่กระชับและชัดเจนจะช่วยให้เรซูเม่ของคุณดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ลองตรวจสอบว่าแต่ละประโยคสื่อสารข้อมูลสำคัญอย่างไรบ้าง หลีกเลี่ยงการใช้คำที่เยิ่นเย้อ และแทนที่ด้วยคำที่ตรงจุดและทรงพลัง
ตัวอย่างการเขียนกระชับ
ก่อน: "ผมได้มีหน้าที่ในการจัดการทีมงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของบริษัท"
หลัง: "บริหารทีมเพื่อบรรลุเป้าหมายองค์กร"
7. ใส่ทักษะสำคัญที่เป็นปัจจุบัน
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทักษะที่คุณใช้ในอดีตอาจไม่สอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบัน ควรเลือกแสดงทักษะที่เป็นปัจจุบันและสอดคล้องกับตำแหน่งที่สมัคร เช่น ทักษะด้านเทคโนโลยี การจัดการโครงการ หรือการสื่อสารกับทีมงานที่ใช้เครื่องมือดิจิทัล
8. ใช้ภาษาเชิงบวกและสื่อถึงความเป็นมืออาชีพ
การใช้ภาษาที่เชื่อมโยงกับความสำเร็จและการพัฒนาอาชีพจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี หลีกเลี่ยงการใช้คำที่สื่อถึงปัญหาหรือข้อจำกัดของตนเอง และใช้คำที่แสดงถึงความก้าวหน้าและการแก้ไขปัญหาแทน
การเขียนเรซูเม่ให้กระชับสำหรับคนที่มีประสบการณ์ทำงานหลายปีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นไปได้หากคุณเลือกเน้นเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร ใช้ภาษาเชิงบวก สรุปข้อมูลสำคัญในรูปแบบที่อ่านง่าย และใช้ข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อสื่อถึงความสำเร็จของคุณ เมื่อทำเช่นนี้ คุณจะมีเรซูเม่ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้ว่าจ้างและเพิ่มโอกาสในการได้รับงานที่ต้องการอย่างแน่นอน