10 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำในการสัมภาษณ์งาน
18/06/2025
การสัมภาษณ์งานไม่ใช่แค่การตอบคำถาม ความสำคัญของการเตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์งานถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการสมัครงาน เพราะเป็นโอกาสในการสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้ว่าจ้าง หลายคนมองว่าสัมภาษณ์คือแค่การตอบคำถามให้ดี แต่จริงๆ แล้ว มันยังรวมถึงการแสดงบุคลิก มารยาท และทัศนคติอีกด้วยค่ะ
10 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำระหว่างสัมภาษณ์งาน
1. แต่งกายไม่เหมาะสม
ภาพลักษณ์ภายนอกสะท้อนถึงบุคลิก ความใส่ใจ และความเคารพต่อสถานที่และบุคคลที่คุณพบ หากคุณแต่งกายไม่เหมาะสม เช่น เสื้อยืด รองเท้าแตะ หรือเสื้อผ้ายับยู่ยี่ จะทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกว่าคุณไม่ให้ความสำคัญกับงานนี้
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย
-
เสื้อยืดลายการ์ตูน
-
กางเกงยีนส์ขาด
-
แต่งหน้าจัดเกินไป (สำหรับเพศหญิง)
คำแนะนำ
-
ผู้ชายควรใส่เชิ้ตแขนยาว กางเกงสแลค และรองเท้าหนัง
-
ผู้หญิงควรใส่ชุดที่สุภาพ ไม่รัดรูปจนเกินไป
-
หลีกเลี่ยงสีฉูดฉาดเกินเหตุ
-
แต่งกายเรียบร้อยคือการให้เกียรติสถานที่
-
ลุคมืออาชีพสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้สัมภาษณ์
-
เสื้อผ้าไม่สะอาด = สะท้อนถึงนิสัยส่วนตัว
2. พูดจาไม่สุภาพหรือไม่มืออาชีพ
น้ำเสียงและคำพูดมีผลอย่างมากต่อความรู้สึกของผู้ฟัง โดยเฉพาะในบริบททางการอย่างการสัมภาษณ์งาน การพูดแทรก ไม่ใช้คำสุภาพ หรือพูดแบบไม่คิดก่อนจะทำให้คุณดูไม่น่าเชื่อถือและขาดวุฒิภาวะ
ตัวอย่างคำพูดที่ควรหลีกเลี่ยง
-
"ไม่รู้อะครับ"
-
"เออ... ก็น่าจะประมาณนี้มั้ง"
-
"เจ้านายเก่าผมก็แย่แบบนี้แหละ"
สิ่งที่ควรทำ
-
ใช้ภาษาทางการ เช่น “ครับ/ค่ะ”, “ขอบคุณครับ/ค่ะ”
-
ตอบคำถามด้วยประโยคสมบูรณ์
-
หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาพูดแบบกันเองมากเกินไป
-
ภาษาสุภาพ = แสดงความเป็นมืออาชีพ
-
หลีกเลี่ยงการพูดแทรกหรือขัดจังหวะ
-
การฟังอย่างตั้งใจคือมารยาทพื้นฐาน
3. พูดจาแง่ลบถึงนายจ้างเก่า
นี่คือหนึ่งในพฤติกรรมที่ HR หลายคนระบุว่าเป็น “ธงแดง” (red flag) สำหรับผู้สมัคร เพราะการพูดไม่ดีเกี่ยวกับนายจ้างเก่า แสดงให้เห็นว่าคุณอาจมีปัญหาเรื่องการปรับตัว หรือไม่มีความสามารถในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน
สิ่งที่ไม่ควรพูด
-
“หัวหน้าผมไม่มีความสามารถเลย”
-
“บริษัทเดิมไม่ดี ทำงานไม่มีอนาคต”
-
“เพื่อนร่วมงานชอบแทงข้างหลัง”
วิธีพูดให้ดูดี
-
เน้นเหตุผลส่วนตัว เช่น “ผมอยากหาความท้าทายใหม่ ๆ”
-
“ผมรู้สึกว่าทักษะผม จะเหมาะกับบริษัทที่มีวัฒนธรรมแบบ...”
สิ่งสำคัญ
-
หลีกเลี่ยงการกล่าวโทษ
-
เน้นความต้องการเติบโตของตนเอง
-
คิดก่อนพูดเสมอ เพื่อภาพลักษณ์มืออาชีพ
4. ไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
การไม่ศึกษาข้อมูลของบริษัทที่ไปสัมภาษณ์แสดงถึงความไม่ใส่ใจและไม่ให้ความสำคัญกับโอกาสที่ได้รับ ผู้สัมภาษณ์ต้องการเห็นว่าคุณสนใจจริง ไม่ใช่แค่มาสมัครเล่นๆ หรือสมัครแบบหว่าน
คำถามที่อาจเจอ
-
“คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง?”
-
“ทำไมถึงอยากร่วมงานกับบริษัทเรา?”
แนวทางการเตรียมตัว
-
อ่านเว็บไซต์ของบริษัท
-
ศึกษาข่าวล่าสุดหรือโปรเจกต์เด่น ๆ
-
การศึกษาบริษัทล่วงหน้า = เพิ่มโอกาสได้งาน
-
เตรียมคำตอบเฉพาะบุคคล แสดงความเข้าใจบริษัท
-
หลีกเลี่ยงการตอบกว้าง ๆ เช่น “เห็นประกาศก็เลยมาสมัคร”
5. มาสายโดยไม่มีเหตุผล
การมาสัมภาษณ์งานสายเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่สร้างความประทับใจลบ(อย่างมาก) เพราะบ่งบอกถึงความไม่พร้อม ขาดความรับผิดชอบ และไม่ให้เกียรติเวลาของผู้สัมภาษณ์ การมาสายไม่เพียงแค่ทำให้เสียเวลาของบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นการลดโอกาสของตัวคุณเองอย่างชัดเจน
สาเหตุที่ผู้สมัครมาสาย (จากประสบการณ์จริง)
จากที่เคยสัมภาษณ์และพูดคุยกับหลายคน สาเหตุที่ผู้สมัครมาสายส่วนใหญ่มักจะมาจากเรื่องเดิมๆ ค่ะ เช่น
-
ประเมินเวลาผิด บางคนคิดว่าออกบ้านก่อนเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็พอ สุดท้ายรถดันติดหนัก หรือเกิดอุบัติเหตุขวางถนนโดยไม่คาดคิด
-
ไม่เช็คเส้นทางล่วงหน้า GPS ก็ไม่ได้เปิดดูแต่เนิ่นๆ บางคนเพิ่งมากดตอนอยู่บนรถแล้วพอรู้ว่ามีปิดถนนก็ไม่ทันแล้ว
-
เตรียมตัวไม่ดี ออกจากบ้านช้ากว่าที่ควรเพราะมัวหาเสื้อผ้า หรือปริ๊นต์เอกสารไม่ทัน เรื่องเล็กๆ แบบนี้แหละที่ทำให้ไปสายค่ะ
แล้วควรทำยังไงดีล่ะ?
-
วางแผนเส้นทางให้ดี ตั้งแต่วันก่อนหน้า
-
เผื่อเวลาเดินทางไว้ อย่างน้อย 30 นาที เผื่อเหตุฉุกเฉิน
-
เตรียมเสื้อผ้า และเอกสารทุกอย่าง ให้เรียบร้อยตั้งแต่คืนก่อน
ข้อควรระวังที่คนมักมองข้าม
-
HR หรือผู้สัมภาษณ์บางคนอาจ ตัดคะแนนทันที! แม้คุณจะมาช้าแค่ 5 นาที
-
บางครั้งเขาอาจมองว่า คุณไม่ให้ความสำคัญกับโอกาสนี้
ดังนั้น ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยจริงๆ โทรแจ้งทันที! ค่ะ การสื่อสารคือหัวใจสำคัญ อย่างน้อยเขาจะรู้ว่าคุณใส่ใจและรับผิดชอบนะคะ
6. ไม่ฟังคำถามให้จบก่อนตอบ
อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กลับส่งผลต่อภาพลักษณ์อย่างมาก ผู้สัมภาษณ์อาจมองว่าคุณขาดความอดทน ขาดความละเอียด หรือไม่ให้ความสำคัญกับคำถาม
การพูดแทรกก่อนฟังให้จบ ยังอาจทำให้คุณ “ตอบไม่ตรงประเด็น” เพราะเข้าใจคำถามคลาดเคลื่อน โดยไม่รู้ตัวด้วยค่ะ
สิ่งที่ควรทำ
ใจเย็นๆ ตั้งใจฟังคำถามให้จบก่อน
พยักหน้าเบาๆ เพื่อแสดงความเข้าใจ
ถ้าไม่แน่ใจหรือฟังไม่ชัด อย่าลังเลที่จะขอให้ผู้สัมภาษณ์ทวนคำถามอีกครั้ง
คำแนะนำ อย่ากลัวที่จะ "เว้นวรรคสั้นๆ" ก่อนเริ่มตอบ เพราะการตอบอย่างมีสติและตรงประเด็น จะทำให้ผู้สัมภาษณ์ประทับใจมากกว่ารีบพูดออกไปทันที จำไว้ว่า "การฟัง" คือทักษะสำคัญในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ใครที่ฟังเป็น มักทำงานเป็น และเข้ากับทีมได้ดีค่ะ
7. ใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างสัมภาษณ์
อย่าเด็ดขาด! เพราะไม่มีอะไรที่ดูไม่ให้เกียรติไปมากกว่าการใช้โทรศัพท์ขณะสัมภาษณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นมือถือ เช็กแชท หรือแม้แต่เสียงเตือนก็ตาม พฤติกรรมนี้แสดงถึงความไม่ใส่ใจของคุณ และไม่เคารพเวลาของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง
แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง
ปิดเสียงหรือปิดเครื่องก่อนเข้าสัมภาษณ์
เก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าหรือกระเป๋าเสื้อ
หากจำเป็นต้องใช้ เช่น มีเหตุฉุกเฉิน ควรแจ้งล่วงหน้า ก่อนเข้ารับการสัมภาษณ์
โทรศัพท์จะรบกวนสมาธิทั้งคุณและผู้สัมภาษณ์
การไม่แตะมือถือเลยในห้องสัมภาษณ์ = จุดบวกใหญ่
การสัมภาษณ์งาน ส่วนใหญ่มักใช้เวลาไม่นาน ฉะนั้นอย่าลืมเรื่องการปิดเสียงรบกวนของงมือถือในช่วงเวลาสัมภาษณ์ด้วยนะคะ ยิ่งหากเป็นงานที่เราสนใจมากๆ ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับการสัมภาษณ์ค่ะ
8. ขาดความมั่นใจหรือมั่นใจเกินไป
การขาดความมั่นใจจะทำให้คุณดูไม่พร้อม ขาดพลังและดูเหมือนยังไม่พร้อมเข้าร่วมกับองค์กร แต่ในทางตรงข้าม การมั่นใจเกินไปก็สามารถทำให้ดูหยิ่ง ไม่รับฟัง และไม่สามารถทำงานร่วมกับทีมได้เช่นกันค่ะ
ตัวอย่างของแต่ละกรณี
ขาดความมั่นใจ : เสียงเบา ไม่สบตา ตอบคำถามสั้นๆ คล้ายถามคำตอบคำ
มั่นใจเกินไป : ขัดคำพูดผู้สัมภาษณ์ พูดนำ หรือพูดโอ้อวดเกินจริง
คำแนะนำ
ซ้อมตอบคำถามล่วงหน้าเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
ระวังน้ำเสียง ท่าทาง และการสบตา (น้ำเสียง สำคัญมากค่ะ แม้เราจะไม่ลงท้ายด้วยคำว่า ครับ/ค่ะ ทุกประโยค แต่ถ้าน้ำเสียงมีความอ่อนนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง ประโยคนั้นก็ดูสุภาพได้นะคะ)
ความมั่นใจที่พอดีคือจุดแข็งในการสัมภาษณ์
หลีกเลี่ยงการพูดว่า "ผมทำได้ทุกอย่าง" โดยไม่มีหลักฐานรองรับ เพราะอาจทำให้ดูโอเวอร์จนเกินไปนั่นเองค่ะ
9. ไม่แสดงความสนใจต่อบริษัทหรืองานที่สมัคร
การแสดงออกว่าไม่ได้สนใจบริษัท หรือสมัครแค่เพราะไม่มีงานอื่นทำ จะทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกว่าคุณไม่ได้มุ่งมั่น หรือไม่พร้อมทุ่มเทให้กับงาน
พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง
ตอบแบบไม่กระตือรือร้น
ไม่รู้แม้แต่ชื่อบริษัทอย่างถูกต้อง ไม่รู้ตำแหน่งที่ตัวเองสมัคร
หากถูกถามว่าสมัครที่อื่นบ้างไหม? อย่าตอบแบบนี้นะคะ
“สมัครหลายที่ค่ะ รอเรียกอยู่” ทำให้ดูไม่โฟกัสกับบริษัทตรงหน้า
“ยังไม่ได้สมัครที่อื่นเลย” นี่ฟังดูไม่มีแผนสำรอง หรือขาดการเตรียมตัว
ควรตอบว่า "หนูยังไม่ปิดโอกาสตัวเองค่ะ มีการยื่นที่อื่นไว้บ้างเพื่อเรียนรู้หลายๆ ทางเลือก แต่บริษัทนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ให้ความสำคัญมาก เพราะตรงกับสิ่งที่หนูสนใจจริงๆ" เป็นการตอบแบบมืออาชีพและเป็นกลาง พร้อมแสดงความสนใจบริษัทนี้เป็นพิเศษด้วยค่ะ
สิ่งที่ควรทำ
ศึกษาข้อมูลบริษัทและใช้ข้อมูลในการสนทนา เช่น "หลังจากศึกษาข้อมูลบริษัทนี้ หนูชอบแนวคิดและวัฒนธรรมองค์กร รู้สึกว่าอยากร่วมงานและเรียนรู้ไปกับทีมที่นี่ค่ะ"
ถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมองค์กรหรือโครงการของบริษัท เช่น “ในทีมที่หนูจะได้ร่วมงานด้วย มีวัฒนธรรมการทำงานหรือการสื่อสารแบบไหนคะ?”
ความกระตือรือร้น คือ สิ่งที่ HR มองหาเสมอ (แต่เมื่อคุณได้งานแล้ว อย่าลืมความเสมอต้นเสมอปลายนี้ด้วยนะคะ)
การเตรียมข้อมูลมาก่อนแสดงถึงความตั้งใจจริง ส่วนนี้จะทำให้คุณได้คะแนนบวกแน่นอนค่ะ
10. ไม่ถามคำถามกลับเมื่อมีโอกาส
ผู้สัมภาษณ์มักจะเปิดโอกาสให้ผู้สมัครถามกลับในตอนท้าย และผู้ที่ไม่ถามอะไรเลยมักถูกมองว่าไม่สนใจ หรือไม่เตรียมตัวมาอย่างดี
ตัวอย่างคำถามที่ควรถาม
ถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร (ถ้าบอกมาบ้างแล้ว ก็ถามเชิงลึก)
“หนูเคยอ่านว่าองค์กรให้ความสำคัญกับการพัฒนาเรียนรู้ต่อเนื่อง อยากทราบว่ามีการสนับสนุนในรูปแบบไหนบ้างคะ เช่น คอร์สอบรมภายใน หรือส่งไปอบรมนอกบริษัท”
“วัฒนธรรมของที่นี่เน้นการทำงานร่วมกัน (collaboration) หนูสงสัยว่าในชีวิตประจำวันจริง ๆ จะเห็นรูปแบบการทำงานร่วมกันแบบไหนบ้างคะ”
ถามเกี่ยวกับงานและทีม
“ถ้าหนูได้รับเลือกเข้าทำงาน ตำแหน่งนี้จะต้องทำงานร่วมกับแผนกใดบ้างบ่อยที่สุดคะ?”
“ทีมที่ทำงานอยู่ตอนนี้มีลักษณะการทำงานแบบไหนคะ เป็น Agile, แบ่งเป็น sub-team หรืออย่างไร?”
ถามเกี่ยวกับความคาดหวัง
“บริษัทมีตัวชี้วัดความสำเร็จของตำแหน่งนี้อย่างไรในช่วง 3 เดือนแรกคะ?”
“มีตัวอย่างของพนักงานที่ประสบความสำเร็จในตำแหน่งนี้ไหมคะ พวกเขาทำอะไรที่โดดเด่น?”
ถามเพื่อปิดบทสนทนาอย่างมืออาชีพ
“หลังจากการสัมภาษณ์แล้ว กระบวนการคัดเลือกขั้นต่อไปเป็นอย่างไรคะ?”
“มีสิ่งใดเพิ่มเติมที่หนูควรทราบหรือเตรียมไว้สำหรับขั้นตอนถัดไปไหมคะ?”
คำแนะนำ
การถามกลับคือโอกาสแสดงความเข้าใจและสนใจ
คำถามดีๆ จะทำให้คุณโดดเด่นจากผู้สมัครคนอื่น
จากคำแนะนำนี้ถ้ายังไม่เพียงพอลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ตอบคำถามสัมภาษณ์อย่างไรให้ปัง
กรณีศึกษาจากประสบการณ์ตรง
ผู้สมัครคุณสมบัติดี แต่พลาดโอกาสเพราะพฤติกรรมเล็กๆ เหล่านี้
ในฐานะฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่สัมภาษณ์ผู้สมัครงานมาหลายร้อยคน ดิฉันพบเจอผู้สมัครจำนวนไม่น้อยที่มีคุณสมบัติดีมาก ทั้งวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ หรือแม้แต่ทักษะที่ตรงกับตำแหน่ง แต่กลับพลาดโอกาสไปเพราะพฤติกรรมบางอย่างที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่สะท้อนถึง “ความไม่พร้อม” และ “ความไม่ใส่ใจ” ต่อโอกาสนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างจริงที่อยากเล่าให้ฟัง
-
มาก่อนเวลานิดเดียว แต่แต่งตัวไม่เหมาะสม
ผู้สมัครคนหนึ่งมาถึงก่อนเวลาเพียง 5 นาที สวมเสื้อยืดยับๆ กับกางเกงยีนส์ซีดๆ ที่ดูไม่เรียบร้อย เมื่อเริ่มสัมภาษณ์ก็เห็นชัดว่าเจ้าตัวไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ไม่มีแม้แต่คำถามกลับเกี่ยวกับบริษัท ทำให้เรารู้สึกว่าเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับตำแหน่งนี้เท่าที่ควร ทั้งที่โปรไฟล์เขาดีมาก -
มาสายโดยไม่ขอโทษหรืออธิบาย
อีกเคสหนึ่งคือผู้สมัครมาสายกว่าเวลานัด 15 นาที เมื่อมาถึงก็ไม่ได้กล่าวคำขอโทษหรือชี้แจงสาเหตุอย่างสุภาพ สิ่งเล็กๆ แบบนี้สะท้อนถึงมารยาทในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เลย -
พูดถึงที่ทำงานเก่าในแง่ลบ
เคยมีผู้สมัครที่เล่าถึงประสบการณ์ทำงานเก่า โดยใช้คำพูดเชิงตำหนิหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานเก่าอย่างเปิดเผย เช่น “เจ้านายไม่รู้เรื่อง” หรือ “ทีมไม่มีประสิทธิภาพเลย” ซึ่งแม้จะเป็นความจริงในมุมของเขา แต่การนำเสนอเช่นนี้สะท้อนทัศนคติลบ และทำให้เกิดคำถามว่า ถ้ามาทำงานกับองค์กรใหม่ แล้วเจอปัญหา เขาจะจัดการอย่างไร -
ตอบคำถามแบบใจลอย / ไม่ตั้งใจ
มีบางคนที่ตอบคำถามเหมือนท่องบท หรือให้คำตอบแบบขอไปที ไม่สบตา ไม่แสดงออกถึงความกระตือรือร้น ซึ่งยิ่งทำให้รู้สึกว่าเขาไม่ได้อยากร่วมงานกับเราจริงๆ
วิธีป้องกันไม่ให้พลาดโอกาสเหมือนในกรณีเหล่านี้
หากคุณกำลังเตรียมตัวสมัครงาน ขอแนะนำให้เตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อให้โอกาสที่เข้ามาไม่หลุดมือไปด้วยเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้
-
เตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมไว้ล่วงหน้า
เลือกชุดสุภาพ สะอาด เรียบร้อย โดยเฉพาะถ้าสัมภาษณ์ในออฟฟิศ แม้เป็นสายครีเอทีฟก็ยังควรแต่งให้ดู “พร้อม” และ “ให้เกียรติ” โอกาสที่ได้รับ -
ศึกษาข้อมูลบริษัทอย่างละเอียด
ดูเว็บไซต์บริษัท หน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่งนั้น รวมถึงค่านิยมองค์กร จะช่วยให้คุณตอบคำถามได้ลึกและดูมีความเข้าใจ -
เตรียมคำถามที่จะถามกลับ
อย่ารอให้ HR ถามว่า “มีอะไรอยากถามไหม” แล้วเงียบ ลองเตรียมคำถามที่สะท้อนความสนใจของคุณ เช่น “บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพพนักงานอย่างไรบ้างคะ” หรือ “วัฒนธรรมองค์กรที่นี่เป็นแบบไหน” -
ซ้อมสัมภาษณ์กับเพื่อนหรือหน้ากระจก
ซ้อมพูดออกเสียง ซ้อมยิ้ม ฝึกการตอบคำถามทั่วไป เช่น จุดแข็ง-จุดอ่อน, เหตุผลที่สนใจบริษัทนี้, ประสบการณ์ที่ภูมิใจที่สุด เป็นต้น
พฤติกรรมเล็กๆ เหล่านี้อาจดูไม่สำคัญ แต่ในการสัมภาษณ์งาน ทุกการแสดงออกสามารถตีความได้ ดังนั้นจงเตรียมตัวให้พร้อม และแสดงให้เห็นว่าคุณ “ใส่ใจ” โอกาสนั้นจริงๆ แล้วคุณจะไม่พลาดเหมือนกรณีตัวอย่างเหล่านี้ค่ะ
เทคนิคสร้างความประทับใจในการสัมภาษณ์งาน
การวางตัวและภาษากายที่ดี
-
ยิ้มอย่างเป็นมิตร เพื่อให้บรรยากาศในการสัมภาษณ์ผ่อนคลายและเป็นกันเอง
-
สบตาผู้สัมภาษณ์อย่างพอดี เพื่อแสดงความมั่นใจและเคารพ (ไม่จ้องมากเกินไปจนดูคุกคาม)
-
ไม่นั่งไขว่ห้างหรือเอนหลังมากเกินไป เพราะท่านั่งเหล่านี้อาจแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพ หรือไม่ให้ความเคารพผู้สัมภาษณ์
-
นั่งหลังตรงและใช้มือประกอบเล็กน้อยขณะพูด จะช่วยให้คุณดูมั่นใจและจริงใจมากยิ่งขึ้น
-
ไม่กอดอกหรือก้มหน้า เพราะอาจแสดงถึงการปิดกั้นหรือไม่มั่นใจ
วิธีพูดให้ดูเป็นมืออาชีพ
-
ใช้ภาษาชัดเจน ไม่ใช้คำแสลง เพื่อแสดงความเข้าใจและความเหมาะสมในการสื่อสารในบริบททางการ
-
ตอบคำถามด้วยโครงสร้างที่ชัดเจน เช่น เริ่มจากประเด็นหลัก ตามด้วยตัวอย่างหรือเหตุผล เพื่อให้คำตอบกระชับและเข้าใจง่าย
-
ขอบคุณผู้สัมภาษณ์หลังจบการสนทนา เพื่อแสดงถึงมารยาทและความใส่ใจ
-
ระวังโทนเสียง ไม่พูดเร็วหรือช้าเกินไป และพยายามใช้น้ำเสียงที่แสดงถึงความตั้งใจจริง
-
หากไม่เข้าใจคำถาม ควรถามกลับอย่างสุภาพ เช่น “ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจครับ/ค่ะ”
การสัมภาษณ์งานเป็นโอกาสสำคัญที่คุณสามารถแสดงศักยภาพและสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์ได้ การเตรียมตัวอย่างดีจะช่วยให้คุณเพิ่มโอกาสในการได้รับงานที่ต้องการ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ วิธีสร้างความประทับใจตอนสัมภาษณ์งาน
สรุปส่งท้าย เตรียมตัวให้พร้อม แล้วคุณจะสัมภาษณ์ผ่านฉลุย
การสัมภาษณ์ไม่ใช่แค่เรื่องของการตอบคำถามให้ดีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแสดงตัวตนอย่างมืออาชีพ การวางตัวที่เหมาะสม และความใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อย เช่น การตรงต่อเวลา การเตรียมคำถามกลับ และการแสดงความสนใจในวัฒนธรรมองค์กร—all of which สะท้อนถึงความพร้อมและความตั้งใจของผู้สมัคร
จาก 10 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำระหว่างสัมภาษณ์งาน พร้อมกรณีศึกษาจากประสบการณ์ตรงที่เราได้ยกตัวอย่างในบทความนี้ จะเห็นได้ว่า ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจสะท้อนความไม่พร้อม และทำให้เสียโอกาสได้โดยไม่รู้ตัว
แต่ข่าวดีคือ! เทคนิคสร้างความประทับใจในการสัมภาษณ์ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และทุกคนสามารถฝึกฝนได้ บทความนี้ไม่ได้เหมาะแค่กับการสัมภาษณ์งานเท่านั้นนะคะ แต่นักศึกษาทุกคนยังสามารถนำไปปรับใช้ในการ สัมภาษณ์ฝึกงาน ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามอย่างฉลาด การเตรียมตัวล่วงหน้า หรือการแสดงความเข้าใจต่อองค์กร all of which ช่วยให้คุณ “ดูพร้อมกว่าคนอื่น” ได้ไม่ยาก
และถ้าคุณกำลังมองหาโอกาสฝึกงานที่ใช่ หรืองานสำหรับเด็กจบใหม่ที่ตอบโจทย์ในสายที่เรียนมา ขอแนะนำให้ลองเข้าไปที่ internth.com เว็บไซต์ที่รวบรวมงานฝึกงานและงานสำหรับเด็กจบใหม่ไว้มากที่สุด พร้อมระบบจับคู่งานกับโปรไฟล์ของคุณโดยใช้ AI ช่วยให้คุณเจองานที่ “ใช่” ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม อย่ารอให้โอกาสเดินผ่านไป เริ่มเตรียมตัวให้พร้อม แล้วคว้าโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับคุณกันเถอะค่ะ
