ฝึกงานอย่างไร ให้เป็นที่รักที่เอ็นดูของเหล่าพี่เลี้ยง

        น้องๆที่กำลังจะไปฝึกงาน หลายคนคงมีอาการประหม่าหรือตื่นเต้นที่จะได้ไปเริ่มการฝึกงาน เพราะการฝึกงานก็คือการจำลองการทำงาน ก่อนจบการศึกษาและออกไปปฏิบัติงานจริง ฉะนั้นแล้วน้องๆทุกคนก็คงอยากฝึกงานให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฝึกงานนั้น และแน่นอนทุกคนก็ย่อมอยากเป็นที่รักที่เอ็นดูของเหล่าพี่ๆในที่ฝึกงานใช่ไหมล่ะคะ ในบทความนี้ internth.com จึงได้นำวิธีที่จะช่วยให้น้องๆ ชนะใจ และเป็นที่รักที่เอ็นดูของพี่ๆในที่ฝึกงานมาฝากกันค่ะ

วิธีชนะใจพี่ๆในที่ฝึกงาน

1. อ่อนน้อม ถ่อมตน รู้กาลเทศะ

        การอ่อนน้อมถ่อมตน คือการแสดงออกถึงท่าทางที่สุภาพ นุ่มนวล ไม่หยาบกระด้าง รู้จักแสดงความเคารพผู้ใหญ่ เช่น การยกมือไหว้หรือพูดขอบคุณทั้งครั้งที่พี่ๆสอนงาน หรือให้คำแนะนำ ส่วนการรู้กาลเทศะ น้องๆ อาจทำได้โดยใส่ใจในเรื่องของการแต่งตัว และการแต่งหน้าทำผม ที่ควรมีความสุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับบริบทขององค์กรที่เราไปฝึกงาน เพื่อเป็นการให้เกียรติสถานที่ทำงานด้วยค่ะ ที่สำคัญเลยของการรู้จักกาลเทศะ คือ เวลาทำงานคือทำงาน ไม่ติดเล่น นะคะ 

2. คิดว่าเรามาทำงานจริง 

        การฝึกงาน คือการเตรียมความพร้อมให้กับเรา ก่อนออกสู่โลกการทำงานจริง เพราะฉะนั้น น้องๆควรมีความคิดว่าเราไม่ใช่แค่มาฝึกงาน แต่ต้องมีความคิดว่าเรากำลังมาทำงานจริงๆ เราจึงต้องมีความรับผิดชอบในงาน ทำงานให้ดี ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด จริงใจกับงาน จริงใจกับเพื่อนร่วมงาน ไม่เกี่ยงงาน และตั้งใจ เวลาพี่ๆเขาสอนงาน ทำงานให้สุดความสามารถเพื่อเป็นการโชว์ฝีมือของเรา และทำให้พี่ๆที่เป็นพี่เลี้ยงเราในระหว่างฝึกงานหรือแม้กระทั่งเจ้าของบริษัท/ผู้บริหาร  จะสามารถรับรู้ได้ถึงความตั้งใจ และเห็นถึงความสามารถของเราด้วยค่ะ 

3. มาให้ตรงเวลา

        การมาทำงานตรงเวลา ไม่มาสาย เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เหล่าพี่เลี้ยงอาจนำมาวัดคุณภาพการฝึกงานของเราได้ เพราะในการทำงานจริง การมาทำงานตรงเวลาไม่มาสาย เป็น KPI ที่ใช้วัดประสิทธิภาพของบุคคลนั้นๆ และหากมาสายก็มีบทลงโทษด้วย เพราะการที่เรามาสายนั้น มีข้อเสียหลายอย่าง เช่น ทำให้เสียวัฒธรรมองค์กร เสียเวลาบุคคลอื่นที่ต้องมารอเรา ทำให้เราดูเป็นคนที่ไม่ใส่ใจ และดูไม่เป็นมืออาชีพ 

4. อย่าพยายามปล่อยตัวเองให้ว่าง 

        การที่เราไม่ปล่อยตัวเองให้ว่าง น้องๆสามารถทำได้ด้วยการเริ่มประโยคว่า "มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ/ครับ" ไม่ว่าพี่ๆคนไหนได้ฟัง ก็ต้องรู้สึกเอ็นดูเราแน่นอน หรือหากพี่ๆยังไม่มีงานให้เราทำ เราก็ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์กร หรือสายงานที่ทำอยู่ดูค่ะ หรือนั่งสังเกตการณ์พี่ๆว่าเขาทำอะไร เขามีวิธีการรับมือกับสถานการณ์ไหนอย่างไร นั่นก็เป็นประโยชน์ต่อตัวเราแล้ว เพราะถ้าไม่มาทำงานจริง เราจะไม่มีโอกาสได้เจอสถานการณ์ต่างๆอย่างที่พี่ๆเขากำลังเจออยู่นั่นเองค่ะ

5. ไม่เข้าใจให้ถาม 

       เมื่องานที่เราได้รับมอบหมายมาจากพี่ๆ แล้วเราไม่เข้าใจ หรือมีข้อสงสัย อย่าอายที่จะถามนะคะ เพราะการถามซ้ำเพื่อให้เกิดการเข้าใจ เป็นการแสดงออกได้ว่าเราเป็นคนที่รอบคอบ ไม่ต้องการให้งานเกิดความเสียหาย หรือเสียเวลาจากการไม่เข้าใจของเรา ทำให้เราทำงานได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ

6. อยู่ให้ห่าง โซเซียลมีเดีย ที่ไม่จำเป็น

        อยู่ให้ห่าง โซเซียลมีเดีย ที่ไม่จำเป็นในเวลางาน เช่น การใช้งาน facebook,Instagram, Line หรือแม้กระทั่งแอปพลิเคชั่นในการช้อปปิ้งออนไลน์ อย่าง shopee, Lazada เพื่อความบันเทิงส่วนตัวในเวลาทำงาน หรือเพื่อฆ่าเวลา ในระหว่างที่รอรับงานถัดไป เพราะไม่มีนายจ้างคนไหนแน่ ที่จะชอบใจเมื่อเห็นลูกจ้างนั่งเล่นมือถือในเวลาทำงาน แม้จะเป็นการกระทำเพื่อฆ่าเวลาเล็กๆน้อยๆก็ตาม ฉะนั้นแล้ว ในฐานะน้องนักศึกษาฝึกงาน หากเราว่างจริงๆ ก็ลองกลับไปที่ ข้อ 4 (อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง) ดูค่ะ

        เป็นไงบ้างคะกับบทความนี้ หวังว่าน้องๆจะนำไปปรับใช้กับการฝึกงานของตนเองได้ และถ้าหากใครที่กำลังมองหาที่ฝึกงานอยู่ละก็ ให้เว็บไซต์อินเทิร์นทีเอช ดอท คอม (internth.com) ของเรา เป็นช่องทางในการหาที่ฝึกงานช่วยน้องๆได้นะคะ