นักกายภาพบำบัด (Physical Therapist) เป็น อาชีพที่ตลาดแรงงานยังต้องการมากที่สุด โดยนักกายภาพบำบัดนั้น คือ ผู้ที่ทำงานด้านสุขภาพ ทางด้านการฟื้นฟูสุขภาพทางกาย พวกเขามีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยหรือคนที่มีปัญหาสุขภาพทางกาย ในการกลับสู่สภาพปกติและเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนเหล่านั้น
ในบทความนี้้เราได้รวบรวมข้อมูลดีๆเกี่ยวกับอาชีพนักกายภาพบำบัด ไม่ว่าจะเป็น ทักษะที่จำเป็นสำหรับการเป็นนักกายภาพบำบัดที่ดี รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับว่าเรียนจบนักกายภาพบำบัดแล้วทำงานอะไรได้บ้าง โดยเชื่อว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชนต่อน้องๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงการตัดสินใจเลือกเรียนต่อ หรือ น้องๆที่กำลังจะต้องไปฝึกงานนักกายภาพบำบัด หรือผู้ที่อยู่ระหว่างการหางานนักกายภาพบำบัด อย่างแน่นอนค่ะ
อาชีพกายภาพบำบัด
ตาม พระราชบัญญัติวิชาชีพกายภาพบำบัด พ.ศ. 2547 ได้ระบุไว้ว่า "เป็นวิชาชีพที่กระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการตรวจประเมิน การวินิจฉัย และการบำบัดความบกพร่องของร่างกาย ซึ่งเกิดเนื่องจากภาวะของโรคหรือการเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติ การป้องกัน การแก้ไขและการฟื้นฟูการเสื่อมสภาพความพิการของร่างกาย รวมทั้งการส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจ ด้วยวิธีการทางกายภาพบำบัด หรือการใช้อุปกรณ์ทางกายภาพบำบัด"
ทักษะที่จำเป็นสำหรับการเป็นนักกายภาพบำบัดที่ดี
1. ต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ
2. ทักษะความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ มีความรู้ทางกายภาพบำบัดและศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนอย่างเป็นระบบโดยอ้างอิงข้อมูลหลักฐานที่ทันสมัย สามารถประยุกต์ความรู้และทักษะปฏิบัติทางวิชาชีพเฉพาะทางในการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การบำบัดรักษา และฟื้นฟูสุขภาพ
- การประเมิน : สามารถประเมินสภาพสุขภาพทางกายของผู้รับบริการเพื่อระบุปัญหาทางกาย และต้องให้การรักษาอย่างไร
- การวางแผนการรักษา : การกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้รับบริการ รวมถึงการกำหนดเป้าหมายและกิจกรรมที่จะช่วยให้พัฒนาสุขภาพทางกายของผู้รับบริการได้
- การสอนและฝึก : การให้คำแนะนำและการสอนผู้รับบริการในการทำกิจกรรมทางกายและการฝึกฝนเพื่อเพิ่มสมรรถนะทางกาย
- การใช้เทคนิคการบำบัด : การใช้เทคนิคการบำบัดเพื่อช่วยลดอาการทางกายและเพิ่มการฟื้นฟูสุขภาพทางกาย
- การติดตามและประเมินผล : การติดตามความคืบหน้าของผู้รับบริการและประเมินผลการรักษาเพื่อปรับปรุงแผนการรักษาต่อไป.
3. ทักษะการทำงานเป็นทีม และความรับผิดชอบต่อหน้าที่
สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นเพื่อพัฒนาสาขาวิชาชีพและสังคม
4. มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ ( EQ ) มีมนุษย์สัมพันธ์ดี
ทั้งต่อเพื่อนร่วมงานและต่อผู้รับบริการหรือผู้ป่วย
5. ทักษะทางด้านการสื่อสาร
สามารถสื่อสารและถ่ายทอดความรู้ให้แก่ ผู้รับบริการ หรือ เพื่อนร่วมงาน ได้เป็นอย่างดี โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เหมาะสม เพื่อพัฒนางานบริการทางกายภาพบำบัดเฉพาะทางให้ก้าวหน้า
งานของนักกายภาพบำบัดประกอบด้วย
นักกายภาพบำบัดสามารถทำงานได้ทั้งในหน่วยงานภาศรัฐและเอกชน ตัวอย่างงานที่สามารถทำได้
1. หน่วยงานภาครัฐและเอกชน
เช่น โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลเฉพาะทาง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ศูนย์ฟื้นฟูสภาพผู้พิการ คลินิกกายภาพบำบัด ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ธุรกิจบริการสุขภาพ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสโมสรกีฬา เป็นต้น
2. นักวิชาการด้านสุขภาพ เครื่องมือ อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
3. นักวิจัยหรือผู้ช่วยนักวิจัย
4. นักกายภาพบำบัดที่ทำงานต่างประเทศ
5. ผู้ประกอบการคลินิกกายภาพบำบัดส่วนตัว
6. นักกายภาพบำบัดอิสระ
7. ศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา ทั้งในและต่างประเทศ
8. อาชีพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายงานด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ
โดยสรุปแล้ว จะเห็นได้ว่า นักกายภาพบำบัด สามารถทำงานในหลากหลายสถานที่ เพื่อช่วยผู้รับบริการให้กลับมาสามารถทำกิจกรรมทางกายได้ตามปกติและอย่างปลอดภัย