Hybrid Working: พัฒนาตัวเองให้ก้าวกระโดด พร้อมสร้างสมดุลชีวิตและการทำงาน

01/04/2025

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น รูปแบบการทำงานจึงมีการปรับเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง Hybrid Working หรือ การทำงานแบบผสมผสาน ได้กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยการผสานข้อดีของการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) และการทำงานจากสำนักงาน (Work from Office) เข้าด้วยกัน Hybrid Working ไม่เพียงแต่เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน แต่ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริม Work-Life Balance หรือ สมดุลชีวิตและการทำงาน และเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง

Hybrid Working คือ


Hybrid Working คืออะไร?

Hybrid Working หรือ การทำงานแบบผสมผสาน คือ รูปแบบการทำงานที่อนุญาตให้พนักงานสามารถแบ่งเวลาทำงานระหว่างสถานที่ต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่น โดยส่วนใหญ่มักหมายถึงการผสมผสานระหว่างการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) และการทำงานจากสำนักงาน (Work from Office) รูปแบบนี้แตกต่างจากการทำงานแบบเดิมที่พนักงานต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน และยังต่างจากการทำงานแบบ Work from Home เต็มรูปแบบที่ไม่มีการเข้าสำนักงานเลย หัวใจสำคัญของ Hybrid Working คือ ความยืดหยุ่น ที่ช่วยให้พนักงานสามารถเลือกสถานที่ทำงานที่เหมาะสมกับลักษณะงานและความต้องการของตนเองในแต่ละช่วงเวลา

ลักษณะเด่นของ Hybrid Working:

  • มีความยืดหยุ่นในการเลือกสถานที่ทำงานตามความเหมาะสม
  • สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารและทำงานร่วมกัน
  • ลดข้อจำกัดด้านสถานที่ ทำให้มีอิสระมากขึ้นในการใช้ชีวิตและทำงาน

Hybrid Working แตกต่างจากรูปแบบการทำงานดั้งเดิมที่พนักงานต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน และยังต่างจากการทำงานแบบ Work from Home เต็มรูปแบบที่ไม่มีการเข้าสำนักงานเลย หัวใจสำคัญของ Hybrid Working คือ ความยืดหยุ่น ที่ช่วยให้พนักงานสามารถเลือกสถานที่ทำงานที่เหมาะสมกับลักษณะงานและความต้องการของตนเองในแต่ละช่วงเวลา


Work-Life Balance คืออะไร ?

Work-Life Balance คือ สภาวะที่บุคคลสามารถจัดสรรเวลาและพลังงานให้กับความรับผิดชอบทั้งในด้านการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างเหมาะสมและน่าพึงพอใจ การมีสมดุลที่ดีระหว่างสองด้านนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพกายและใจ ความสุขส่วนตัว ประสิทธิภาพในการทำงาน และความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง

ประโยชน์ของ Work-Life Balance:

  • ส่งเสริมสุขภาพกายและจิตใจ
  • เพิ่มความสุขในชีวิตประจำวัน
  • ลดความเครียดจากการทำงาน
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว
  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน

การมีสมดุลที่ดีระหว่างสองด้านนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของพนักงานและความสำเร็จขององค์กรในภาพรวม


Hybrid Working เชื่อมโยงกับ Work-Life Balance อย่างไร?

Hybrid Working เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยส่งเสริม Work-Life Balance ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมอบความยืดหยุ่นและอิสระในการจัดการชีวิตและการทำงาน

แนวทางที่ Hybrid Working ส่งเสริม Work-Life Balance:

  • ลดเวลาเดินทาง ทำให้มีเวลามากขึ้นสำหรับครอบครัวและกิจกรรมส่วนตัว
  • ปรับตารางเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับภาระหน้าที่ในชีวิตจริง
  • สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมสมาธิและลดความเครียด
  • ทำให้สามารถดูแลครอบครัวหรือภาระอื่น ๆ ได้โดยไม่กระทบกับงาน

การมีโอกาสจัดการตารางชีวิตและการทำงานตามบริบทส่วนตัว ทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและมีความสุขมากขึ้นในการทำงาน

5 เทคนิคพัฒนาศักยภาพตัวเองให้ก้าวกระโดดในยุค Hybrid Working:

แม้จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น การพัฒนาศักยภาพตัวเองอย่างต่อเนื่องยังคงเป็นสิ่งสำคัญ ลองนำ 5 เทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อเติบโตในยุค Hybrid Working

1. ออกแบบตารางเวลาให้เอื้อต่อการเรียนรู้และพัฒนา:

  • กำหนดช่วงเวลาสำหรับการเรียนรู้ในแต่ละวันหรือสัปดาห์
  • วางแผนการเรียนรู้ผ่านการอ่านหนังสือ การดูวิดีโอ หรือการลงคอร์สออนไลน์
  • ใช้ตารางเวลาเพื่อสร้างวินัยและรักษาความต่อเนื่องในการพัฒนา

2. ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและแหล่งข้อมูลออนไลน์อย่างเต็มที่:

  • แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ เช่น Coursera, edX, Udemy
  • เว็บไซต์และบล็อกในสายงานของคุณ
  • Podcast, YouTube, และ Infographic ที่ให้สาระ
  • เครื่องมือเสริมประสิทธิภาพ เช่น Notion, Trello, Grammarly

3. สร้างเครือข่ายมืออาชีพทั้งออนไลน์และออฟไลน์:

  • เข้าร่วม Community หรือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญใน LinkedIn
  • แลกเปลี่ยนความรู้ผ่านการสนทนาและความคิดเห็น
  • เข้าร่วมงานสัมมนาและ Workshop เพื่อพบปะและเรียนรู้จากผู้อื่น

4. ตั้งเป้าหมายการพัฒนาตัวเองและติดตามความก้าวหน้า:

  • แบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็นเป้าหมายย่อยที่ทำได้จริง
  • จดบันทึกและประเมินผลทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน
  • ใช้แอปจัดการเป้าหมาย เช่น Todoist, Habitica หรือ Google Keep

5. ขอ Feedback และนำมาปรับปรุงตัวเองอย่างสม่ำเสมอ:

  • สร้างความสัมพันธ์ที่ไว้ใจได้กับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน 
  • เปิดใจรับฟังความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์
  • ใช้ Feedback เพื่อพัฒนาวิธีการทำงานและทักษะที่ยังขาดอยู่


10 ข้อควรรู้และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับ Hybrid Working:

1. ทำความเข้าใจนโยบายขององค์กร:

  • ศึกษาเกณฑ์การเข้าสำนักงานและการทำงานจากที่บ้าน
  • ปฏิบัติตามแนวทางด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

2. สร้างพื้นที่ทำงานที่บ้านที่เหมาะสม:

  • จัดสรรมุมที่มีแสงสว่างเพียงพอและปราศจากสิ่งรบกวน
  • ลงทุนในอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น โต๊ะเก้าอี้ที่เหมาะกับสรีระ

3. กำหนดตารางเวลาการทำงานที่ชัดเจน:

  • ใช้แอปช่วยเตือนเวลา เช่น Google Calendar หรือ Clockify
  • สร้างกรอบเวลาการทำงานเพื่อรักษาวินัยและสมดุล

4. วางแผนการเข้าสำนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ:

  • เลือกวันเข้าออฟฟิศให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการการร่วมมือ
  • เตรียมงานที่ต้องใช้ทรัพยากรของออฟฟิศล่วงหน้า

5. ใช้เครื่องมือการสื่อสารและการทำงานร่วมกันอย่างเหมาะสม:

  • คุ้นเคยกับแพลตฟอร์ม เช่น Slack, Microsoft Teams, Zoom
  • ใช้ระบบจัดการโปรเจกต์ เช่น Asana หรือ Trello

6. สร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน:

  • กำหนดเวลาพักเบรกเป็นระยะ
  • ปิดการแจ้งเตือนหลังเวลาทำงาน

7. รักษาการติดต่อสื่อสารกับทีมอย่างสม่ำเสมอ:

  • อัปเดตความคืบหน้าและปัญหาในการทำงานเป็นประจำ
  • เข้าร่วมประชุมออนไลน์อย่างมีส่วนร่วม

8. ให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน:

  • นัดพบปะพูดคุยเพื่อกระชับความสัมพันธ์
  • เข้าร่วมกิจกรรมทีม ไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์

9. ดูแลสุขภาพกายและใจ:

  • ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดินในบ้าน โยคะ หรือเวทเทรนนิ่ง
  • พักผ่อนให้เพียงพอและฝึกสมาธิเมื่อตึงเครียด

10. ปรับตัวและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง:

  • เปิดใจรับการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงกระบวนการทำงาน
  • เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เพื่อรับมือกับอนาคตของการทำงาน

บทสรุป:

Hybrid Working เป็นรูปแบบการทำงานที่มีศักยภาพในการสร้างประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านความยืดหยุ่น Work-Life Balance และโอกาสในการพัฒนาตนเอง การทำความเข้าใจหลักการ แนวทางปฏิบัติ และข้อควรรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวเข้ากับการทำงานรูปแบบนี้ได้อย่างราบรื่น และใช้ประโยชน์จาก Hybrid Working เพื่อให้ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของคุณมีความสมดุลและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น


logo internth square

AUTHOR

Admin Sea

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ตำแหน่งรับสมัครงานล่าสุด

Logo บริษัท มิราเคิล ไลฟ์ โค้ช จำกัด

บริษัท มิราเคิล ไลฟ์ โค้ช จำกัด

กรุงเทพมหานคร - บึงกุ่ม

VDO Editor

ฝึกงาน
WFHสัมภาษณ์ออนไลน์

หมวดหมู่ : สื่อสารมวลชน/โฆษณา

จำนวนรับสมัคร : 8 อัตรา

เบี้ยเลี้ยง :ไม่กำหนด

Logo บริษัท มิราเคิล ไลฟ์ โค้ช จำกัด

บริษัท มิราเคิล ไลฟ์ โค้ช จำกัด

กรุงเทพมหานคร - บึงกุ่ม

Graphic Designer

ฝึกงาน
WFHสัมภาษณ์ออนไลน์

หมวดหมู่ : ออกแบบ/กราฟิกดีไซน์

จำนวนรับสมัคร : 4 อัตรา

เบี้ยเลี้ยง :ไม่กำหนด

Logo บริษัท มิราเคิล ไลฟ์ โค้ช จำกัด

บริษัท มิราเคิล ไลฟ์ โค้ช จำกัด

กรุงเทพมหานคร - บึงกุ่ม

Content Creator

ฝึกงาน
WFHสัมภาษณ์ออนไลน์

หมวดหมู่ : นักเขียน/บรรณาธิการ/พิสูจน์อักษร

จำนวนรับสมัคร : 4 อัตรา

เบี้ยเลี้ยง :ไม่กำหนด

ผู้ช่วยแพทย์

งานประจำ
สัมภาษณ์ออนไลน์ยินดีรับเด็กจบใหม่

หมวดหมู่ : บริการทางการแพทย์

จำนวนรับสมัคร : 2 อัตรา

เงินเดือน :13,000 - 18,000 บาท

เจ้าหน้าที่การตลาด

งานประจำ
สัมภาษณ์ออนไลน์ยินดีรับเด็กจบใหม่

หมวดหมู่ : งานขาย

จำนวนรับสมัคร : 3 อัตรา

เงินเดือน :12,000 - 14,000 บาท

เจ้าหน้าที่แนะแนวโรงเรียนเอกชนนอกระบบ

งานประจำ
สัมภาษณ์ออนไลน์ยินดีรับเด็กจบใหม่

หมวดหมู่ : งานขาย

จำนวนรับสมัคร : 2 อัตรา

เงินเดือน :12,000 - 16,000 บาท

ฝากเรซูเม่ไว้กับเราได้งาน ที่ฝึกงาน ชัวร์ 100%

สร้างเรซูเม่ออนไลน์ กับ INTERNTH ดียังไง ?

เรามี Ai แนะนำงาน ช่วยคัดกรองงานที่เหมาะกับโปรไฟล์ของคุณ มาให้เลือกอัตโนมัติ

แชร์เรซูเม่ของท่านในรูปแบบ Link URL หรือ QR Code ได้เลย

อีเมลแจ้งเตือนอัตโนมัติ เมื่อบริษัทกดเชิญร่วมทำงาน หรือคุณสมัครงาน

กราฟแสดงผล จำนวนบริษัทที่เปิดดูเรซูเม่ของคุณในแต่ละวัน

Encryption Resume เข้ารหัสบัญชี ความปลอดภัยสูง

internth resume