เริ่มต้นหางานยังไงดี ในฐานะ “เด็กจบใหม่”
17/07/2025
เรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรง ของพี่ที่เคยเป็น "เด็กจบใหม่"
สวัสดีค่ะน้องๆที่เพิ่งเรียนจบ พี่ชื่อ "พี่กมล" เรียนจบคณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ มาเมื่อต้นปี 2565 พี่ก็เคยเป็นเด็กจบใหม่เหมือนกัน จึงเข้าใจความรู้สึกตอนก้าวขาออกจากรั้วมหาวิทยาลัยดีเลยล่ะ มันทั้งตื่นเต้น ทั้งกังวล โดยเฉพาะกับคำถามในใจที่วนอยู่ตลอดว่า “จะเริ่มยังไงดี?” “จะมี งานจบใหม่ ที่ไหน ยินดีรับเด็กจบใหม่ อย่างเราบ้างไหม?” วันนี้พี่ขอแบ่งปันประสบการณ์ตรง (รวมถึงเรื่องที่อยากให้พี่ตอนนั้นรู้ด้วย) เผื่อจะช่วยให้น้องมีกำลังใจและเริ่มต้นได้มั่นคงขึ้นนะคะ
6 สิ่งที่น้องต้องรู้ สำหรับ "เด็กจบใหม่" ที่เริ่มต้นหางาน!
1. อย่ากลัวที่จะเริ่มจาก 0
เพราะพี่ก็เริ่มแบบนั้น หลายคนคิดว่าต้องมีโปรไฟล์เทพๆ ถึงจะหางานได้ จริงๆแล้ว ไม่เลยค่ะ! งานที่รับเด็กจบใหม่ มีอยู่เยอะมาก แต่เขาอยากเห็น “ความพร้อมจะเรียนรู้” มากกว่าอะไรทั้งหมด ตอนพี่สมัครงานแรก พี่ไม่มีอะไรเลยนอกจากความขยันและความจริงใจในการทำงาน บางที่บริษัทเขาเขียนไว้เลยว่า “ยินดีรับเด็กจบใหม่” เพราะเขาอยากปั้นคนที่ไม่มีกรอบตายตัว ให้กลายเป็นคนเก่งที่โตไปพร้อมองค์กร
2. ถ้าเรซูเม่ไม่มีอะไรเยอะ ก็ใส่ใจเรื่องเล่าแทน
เรซูเม่ของเด็กจบใหม่อาจดู “ว่าง” ไปนิด เพราะเรายังไม่มีประสบการณ์งานเต็มเวลาใช่ไหมคะ พี่แนะนำว่าให้เน้นสิ่งเหล่านี้ นั่นคือ
- โครงการเรียน/ฝึกงานที่เคยทำ งานจิตอาสา หรือกิจกรรมที่เคยเป็นผู้นำ
- Soft Skills ที่เด่น เช่น การสื่อสาร ทำงานร่วมกับคนอื่น ความรับผิดชอบ
ที่สำคัญ อย่าเขียนแบบ “ลิสต์ให้ดูเต็ม” เฉยๆ พี่อยากให้เล่าให้เห็นว่าเราเรียนรู้อะไรจากสิ่งนั้น และสิ่งนั้นจะช่วยให้องค์กรได้ประโยชน์ยังไงค่ะ
3. อย่าดูถูกงานแรก
งานแรกไม่จำเป็นต้องเป็น “งานในฝัน” แต่ควรเป็น “งานที่ได้ฝึกฝนและเติบโต”
พี่เคยเริ่มจากงานที่หลายคนไม่เลือก พอทำไปเรื่อยๆ เรากลับได้สกิลที่เอาไปต่อยอดสายอาชีพได้ดีกว่าเพื่อนที่ได้งานใหญ่แต่ไม่โต ลองมองให้กว้าง งานที่เขียนว่า “ยินดีรับเด็กจบใหม่” หรือ “เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้เรียนรู้จากศูนย์” พวกนี้แหละคือสนามซ้อมที่ดีมาก
4. ใช้แพลตฟอร์มให้เป็นประโยชน์
ตอนนี้มีหลายแพลตฟอร์มที่คัดงานสำหรับ เด็กจบใหม่ โดยเฉพาะ เช่น internth.com (ที่น้องกำลังอ่านอยู่นี่แหละค่ะ ^^)
เขามีตัวกรองค้นหางานที่ชื่อว่า "งานยินดีรับเด็กจบใหม่" เราสามารถกรองหางานที่เปิดกว้างสำหรับเด็กจบใหม่จริงๆ ได้ ไม่ต้องเสียเวลาคลิกดูทีละประกาศแล้วเจอคำว่า “ขอมีประสบการณ์ ... ปี” ให้เสียกำลังใจอีกต่อไป
5. ถ้ายังไม่พร้อมสมัครงาน ลองฝึกงานอีกรอบก็ไม่เสียหาย
หลายบริษัทมี โปรแกรมฝึกงานสำหรับเด็กจบใหม่ โดยเฉพาะ บางแห่งเปิดเป็น “ฝึกงานแบบมีเบี้ยเลี้ยง” หรือมีโอกาสต่อยอดเป็นพนักงานประจำเลยด้วยซ้ำ บริษัทที่ทำงานพี่เอง ก็เคยรับน้องฝึกงานคนนึงที่ตั้งใจมาก จนสุดท้ายคนในทีมนั้นต้องส่งตัวแทนแผนกมาอ้อน HR ให้เปิดตำแหน่งใหม่เพื่อรับเขาเข้าทำงานเลยล่ะ เห็นได้ชัดเลยว่าเด็กคนนั้นคือ “ใช่” ได้ใจเพื่อนร่วมงานทั้งทีมแบบเต็มๆ
6. จงมั่นใจว่าโลกต้องมีที่ของเรา
เด็กจบใหม่ทุกคนมีเส้นทางของตัวเอง พี่อยากให้น้อง “อดทน” แต่อย่าท้อ “เรียนรู้” แต่ไม่กดดันตัวเองจนหมดไฟ ไม่มีอะไรผิดถ้าน้องยังไม่รู้ว่าชอบอะไร แต่อย่าหยุดลอง พี่รับรองว่าถ้าเปิดใจ ทำเต็มที่ในทุกที่ที่ได้ลอง สุดท้ายเราจะเจองานที่ใช่ และองค์กรที่เห็นคุณค่าในตัวเรา
บทส่งท้าย จากใจพี่ที่เคยเป็นเด็กจบใหม่
สุดท้ายนี้ พี่ขอสรุปใจความสั้นๆ แต่จริงใจถึงน้องๆเด็กจบใหม่ทุกคน ไม่ต้องมีโปรไฟล์เป๊ะ ก็หางานได้ บริษัทดีๆ ยินดีรับเด็กจบใหม่ ที่มีทัศนคติดีและเรียนรู้ไว และแพลตฟอร์มช่วยหางานดีๆสำหรับ เด็กจบใหม่ มีอยู่จริง อย่าอายที่จะเริ่มจากเล็ก ขอแค่ได้เริ่ม แล้วโตจากตรงนั้น พี่เชื่อว่า งานจบใหม่ ที่เหมาะกับน้องจะเจอแน่นอน ถ้าไม่หยุดพยายาม
สำหรับน้องคนไหนกำลังลังเล หรือกังวลเรื่องการหางาน อยากให้รู้ไว้นะคะว่า พี่กมล ขอเป็นกำลังใจให้กับน้องๆทุกคน ขอให้น้องโชคดี และได้งานที่เหมาะกับตัวเองไวๆค่ะ
หากชอบบทความนี้ พี่ขอฝากแพลตฟอร์ม internth.com ไว้เป็นเพื่อนน้องๆ ด้วยนะคะ ที่นี่รวม งานที่รับเด็กจบใหม่ ไว้เพียบ และใช้เรซูเม่ใบเดียวสมัครได้หลายที่ สะดวกมากๆ
แชร์ประสอบการณ์ดีๆจาก : คุณกมลฉันท์ (พี่คนนึงที่เคยเป็น “เด็กจบใหม่” เหมือนกัน)
หากชอบบทความแนวนี้ สามารถกดติดตามเพจของเราไว้ได้เลยจ้า ที่ Facebook Fanpage : อินเทิร์นทีเอช ดอทคอม
